วันพฤหัสบดีที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2556

ผู้ชนะในตลาดหุ้น


               ช่วงนี้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2555 ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นถึง 36% คือเพิ่มขึ้นจาก 1025.32 จุดในสิ้นปี 2554 มาเป็น 1391.93 จุดในสิ้นปี 2555 และในเดือนมกราคม 2556 เพียงเดือนเดียวนี้ดัชนีก็ปรับขึ้นมาประมาณ 100 จุดหรือประมาณ 7% แล้ว

                การที่ดัชนีปรับเพิ่มขึ้นมามากในเวลาอันรวดเร็วแบบนี้ทำให้มีคนจำนวนมากที่ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่อนเริ่มสนใจ และสมัครเปิดบัญชีเพื่อเข้ามาเก็งกำไรในตลาดหุ้นเพราะเห็นว่าหาเงินง่าย ลงทุนตัวไหนก็มีกำไรเกือบทั้งนั้น หลายๆคนซื้อหุ้นโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าบริษัทที่เขาเข้าไปซื้อหุ้นนั้นมีชื่อจริงว่าอะไร ในช่วงเวลาเช่นนี้มีเซียนใหม่ๆเกิดขึ้นมากมาย คนที่เพิ่งเข้ามาเล่นหุ้นเพียงไม่กี่เดือนหรือแค่ปีสองปีจำนวนมากมีความมั่นใจในตัวเองและมองว่าแนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่ต้องลงทุนในบริษัทที่มีพื้นฐานดีและราคายังไม่แพงนั้นเป็นเรื่องล้าสมัยไปแล้ว พวกเขาเฝ้ามองจอหุ้นทุกวันเพื่อมองหาหุ้นที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นมากในเวลาที่รวดเร็วและเข้าไปร่วมวงด้วย ในภาวะเช่นนี้นักลงทุนที่เน้นลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีแต่ราคาไม่หวือหวาจำนวนมากเริ่มเกิดความลังเล และฟุ้งซ่าน พวกเขาถูกทดสอบด้วยความโลภและกิเลสของตัวเอง และบางครั้งอาจจะเผลอใจเข้าไปร่วมวงซื้อหุ้นตามกระแส ซึ่งในช่วงเวลาแบบนี้หุ้นตามกระแสย่อมสร้างผลกำไรให้จำนวนมากในระยะเวลาสั้นๆ เมื่อลองซื้อครั้งหนึ่งแล้วพบว่ามีกำไรดีก็อาจจะทำให้ติดใจและมีครั้งที่สองครั้งที่สามต่อไป
             
               การที่นักลงทุนแบบเน้นคุณค่าเข้าไปเล่นเก็งกำไรแล้วได้กำไรนั้นดูผิวเผินแล้วน่าจะเป็นเรื่องดีเพราะมีกำไร ไม่ได้ขาดทุน แต่ในระยะยาวแล้วถือว่าเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก เพราะการเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จนั้นนอกจากต้องมีความรู้แล้วยังต้องสั่งสมประสบการณ์ในแนวทางที่ถูกต้อง มีวินัยในการลงทุนในแนวทางที่ถูกต้องอยู่เสมอ การที่เขาเหล่านั้นมีประสบการณ์ในการเล่นหุ้นแบบเก็งกำไรแล้วได้กำไรหลายๆครั้งเข้าจะทำให้เขาเรียนรู้และสั่งสมแนวคิดที่ไม่ถูกต้องเข้ามาโดยไม่รู้ตัว และในที่สุดเขาจะไม่สามารถทำตามแนวทางของการลงทุนแบบเน้นคุณค่าได้จนถึงที่สุด จงจำไว้ว่เมื่อเราทำผิด การโดนลงโทษย่อมดีกว่าการได้รับรางวัล เพราะบทลงโทษจะทำให้เราเรียนรู้ปรับปรุง แต่รางวัลจะทำให้เราหลงผิดไป

               การเก็งกำไรนั้นถึงแม้ว่าจะทำให้ร่ำรวยได้ แต่ก็เป็นระยะเวลาสั้นๆ เราอาจจะร่ำรวยขึ้นได้ภายในไม่กี่วัน ในขณะเดียวกันการเก็งกำไรก็ทำให้คนที่ร่ำรวยแล้วหมดตัวได้ภายในไม่กี่วันเช่นกัน มีนักเก็งกำไรระดับโลกหลายคนที่ในช่วงชีวิตหนึ่งนั้นร่ำรวยขึ้นมาและกลับไปหมดตัวอยู่หลายรอบ จนถึงบั้นปลายชีวิตก็หมดตัวอีกครั้งจบลงด้วยความพ่ายแพ้ และตลอดชีวิตนั้นเต็มไปด้วยความเครียดและความทุกข์ ในช่วงนี้การเก็งกำไรอาจจะทำให้เรารู้สึกว่าเป็นผู้ชนะในตลาดหุ้น แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นชัยชนะที่ไม่ยั่งยืน ต่างกับแนวทางการลงทุนแบบเน้นคุณค่าที่อาจจะไม่ร่ำรวยเร็วมาก แต่ก็จะมั่นใจได้แน่นอนว่าในหลายๆปีข้างหน้าจะร่ำรวยอย่างมั่นคงแน่นอน ในบั้นปลายชีวิตนักลงทุนนั้นเราสามารถมั่นใจได้ว่าเราจะเป็นผู้ชนะ ดังนั้นหากเราเลือกที่จะลงทุนตามแนวปัจจัยพื้นฐานให้ประสบความสำเร็จแล้ว เราก็จำเป็นต้องมีความอดทน และรู้จักควบคุมจิตใจตนเองไม่ให้หลงไปกับราคาหุ้นที่ขึ้นลงหวือหวาล่อตาล่อใจของเรา เรื่องความรู้และแนวทางการลงทุนนั้นซื้อหนังสือมาศึกษาหาอ่านได้ไม่ยาก แต่การฝึกฝนจิตใจของเราให้เข้มแข็งนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยเวลาและประสบการณ์

               สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จในระดับโลกมีเหมือนๆกันคือ เขาเหล่านั้นอยู่เหนืออารมณ์ของตลาด และอาศัยอารมณ์ของตลาดเหล่านั้นให้เกิดประโยชน์ การคาดการณ์ตลาดว่าจะขึ้นหรือจะลง หรือวิจารณ์ว่าตลาดสูงไปแล้วหรือต่ำไปแล้วไม่ใช่สิ่งที่นักลงทุนที่ฉลาดเลือกทำ ไม่มีใครสามารถรู้ล่วงหน้าได้ ไม่มีใครคาดการณ์ได้แม่นยำจริงแม้กระทั่งนักลงทุนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก หากเรามองไปรอบตัวแล้วว่าธุรกิจหรือบริษัทที่เราลงทุนอยู่นั้นยังดำเนินกิจการไปได้ดีอยู่ก็จงลงทุนต่อไป อย่าได้หวั่นไหวกับสภาวะตลาด ในทางตรงกันข้ามหากธุรกิจเหล่านั้นไม่น่าประทับใจ ก็จงอย่าได้ลงทุนกับบริษัทนั้นต่อไป จงพิจาณาถึงตัวกิจการ อย่าได้ตัดสินด้วยราคาหุ้น หรือสภาวะตลาดหุ้น