วันศุกร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2559

สรุปผลตอบแทนและบทเรียนจากการลงทุนปี 2016

สรุปผลตอบแทนและบทเรียนจากการลงทุนปี 2016

SET เริ่มต้นปีที่ 1288.02 จุด และสิ้นสุดปีที่ 1542.94 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 254.92 จุด หรือ 19.8% แต่ถ้าคิดรวมปันผล คือดูผลตอบแทนของ SET TRI จะได้ผลตอบแทนประมาณ 24% ถือว่าเป็นปีที่ดีปีหนึ่งสำหรับตลาดหุ้นไทยเลยทีเดียว

สำหรับพอร์ตการลงทุนของตัวผมเองปีนี้ได้ผลตอบแทน 142% ถือว่าเป็นปีที่ดีมากๆอีกปีหนึ่ง และเป็นปีที่ทำสถิติสูงสุดเป็นอันดับสองของชีวิตการลงทุนรองจากปี 2014 โดยผลตอบแทนสะสมตลอด 8 ปีที่ผ่านมา (หลังจากศึกษาการลงทุนตามแนวทาง VI อย่างจริงจัง) อยู่ที่ 13,029% หรือก็คือ 130 เท่าจากเงินต้นในกรณีที่คิดว่าไม่มีการเติมเงินหรือถอนเงินออกจากพอร์ต แต่ในความเป็นจริงนั้นเงินถูกถอนออกมาใช้ค่อนข้างมากเกินกว่าเงินทุนไปมากแล้ว โดยเฉพาะใน 2-3 ปีหลังที่ลาออกจากงานประจำมาเป็นพ่อบ้านเลี้ยงลูกและลงทุนเพียงอย่างเดียว





ถึงแม้ปีนี้จะดูเป็นปีที่ดี แต่ในความเป็นจริงหากดูกราฟผลตอบแทนในแต่ละช่วงเวลาของปีนี้จะพบว่ามีความผันผวนไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านๆมาเลย โดยมีช่วงที่เกิดการลดลงของผลตอบแทนค่อนข้างมากอยู่ 2 ช่วงคือ ช่วงเดือนเมษายน ที่ผลตอบแทนลดลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงเกิดจากการที่มั่นใจในหุ้นที่ลงทุนมากจนเกินไป เข้าไปซื้อในสัดส่วนค่อนข้างมากโดยหุ้นมีขนาดค่อนข้างเล็ก เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ผิดคาดในทางไม่ดี ราคาหุ้นก็ปรับตัวลงอย่างรวดเร็วจนขายออกไม่ทัน ทำให้กำไรที่ได้จากหุ้นตัวนั้นที่ได้มาก่อนหน้าแทบไม่เหลือเลย และอีกช่วงหนึ่งคือเดือนกันยายนถึงตุลาคม ตอนนั้นได้ขายหุ้นที่ค่อนข้างดีออกไปถือเงินสดค่อนข้างมากเพราะกลัวข่าวที่ดูเหมือนจะทำให้บ้านเมืองวุ่นวายเกิดขึ้น แต่การขายครั้งนั้นดันไปขายหลังจากหุ้นปรับลงมาเยอะแล้ว แถมยังเลือกที่จะแทงซื้อ PUT DW บางส่วน เพราะคาดว่าตลาดจะลงแรง แต่ผลกลับตรงกันข้าม ทันทีที่ข่าวจริงออก หุ้นทั้งตลาดกลับปรับตัวขึ้นแรง ยังดีที่วันถัดมาตัดสินใจกลับมาซื้อหุ้นคืนในราคาที่แพงขึ้น และขาย DW ไปหมด บทเรียนสำคัญ 2 ข้อที่ได้ในปีนี้คือ
1. สภาพคล่องเริ่มเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาแล้ว เพราะพอร์ตเริ่มใหญ่ขึ้น จะลงทุนตัวเล็กๆในสัดส่วนที่เยอะๆของพอร์ตแบบ 2-3 ปีที่ผ่านมาไม่ได้แล้ว หากเกิดผิดพลาดอะไรขึ้นมาจะได้ออกได้โดยไม่เจ็บตัวมากนัก
2. อย่าคาดการณ์สภาวะตลาด เก่งแค่ไหน มั่นใจแค่ไหน ก็ไม่สามารถคาดการณ์ได้แม่นยำได้ ให้ยึดราคาและปัจจัยพื้นฐานของหุ้นที่เราลงทุนเป็นสำคัญ

ภาพรวมปีนี้กำไรส่วนใหญ่มาจากหุ้น 2-3 ตัวเท่านั้น โดยพระเอกของปีนี้คือ GL และพระรองคือ ACAP ทั้ง 2 ตัวนี้เริ่มต้นรู้จักจากเพื่อนๆนักลงทุนด้วยกัน ที่มีโอกาสมาแชร์มาคุยกันในไลน์ ซึ่งจริงๆก็มีคุยกันหลายตัว แต่ 2 ตัวนี้เข้าตาและลงทุนในสัดส่วนที่ค่อนข้างมากของพอร์ตทำให้ผลตอบแทนออกมาค่อนข้างดี

สำหรับปี 2017 นั้น คิดว่าเป็นปีที่ค่อนข้างยาก และอาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแนวทางการลงทุนบ้างหากคิดจะลงทุนในหุ้นขนาดเล็กๆต่อไป จากเดิมทุ่มหนักๆแค่ 1-2 ตัวได้ ก็คงต้องเปลี่ยนมา กระจายหุ้นมากขึ้น ถ้าหาหุ้นไม่ได้ก็ถือเงินสดไว้ก่อน